12/21/2004

ให้มันรู้บ้างว่าผมลูกใคร



วันแรกที่ผมเกิดมา มีปัญหามากมายที่เกิดกับผม โลกภายนอกมันช่างไม่สุขสบายเหมือนในท้องแม่เลย ผมถูกบังคับ
ให้ดูดนมแม่ ต้องใช้คำว่าบังคับ เพราะผมไม่เคยดูดมาก่อน ในท้องแม่ผมหิวผมก็สามารถดูดกินน้ำคล่ำได้ทันที ซึ่งมัน
ก็คือฉี่ผมนั่นเอง แต่เมื่อผมหิวในโลกภายนอกแล้วไม่มีคำว่าทันที ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการดูดนมแม่ พวกผู้ใหญ่มักเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งไม่จริงเลย ผมต้องพบกับความลำบากมากมายกว่าจะได้น้ำนมแม่
อันประเสริฐมา อย่างไรก็ตามไม่ใช่ผมที่ลำบากเท่านั้น แม่เองก็น้ำตาไหลตลอดเวลาที่ให้นมผม จนถึงวันนี้ผมคือผู้ชาย
ที่ทำให้แม่ได้รับความเจ็บปวดมากที่สุดจากการดูดนม แม่ปวดร้าวไปทั่วรวมทั้งมีน้ำตาซึมออกมา ผมเองไม่เห็นหรอก
แต่รู้ได้ด้วยความรู้สึกที่แม่แสดงออกมา พ่อเองก็น้ำตาซึมด้วยสาเหตุว่า พ่อเคยทำให้แม่ร้องไห้ตอนวัยรุ่นด้วยการแสดง
อารมณ์ฉุนเฉียวใส่แม่ พ่อบอกแม่ว่าพ่อเข้าใจแล้วว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นทำไมแม่ของพ่อถึงร้องไห้ พ่อพูดเท่านั้นแม่ก็
ปล่อยให้น้ำตาร่วงลงมาที่ตัวผม เพราะแม่เองก็เคยทำอย่างนั้นเช่นกัน

แต่ผมไม่รู้หรอกผมยังเด็ก ตัวเล็กแต่เสียงดัง เมื่อไม่ได้น้ำนมดั่งใจผมก็จะดูดๆ ยังไม่ได้อีกผมก็จะดูดๆเมื่อหมดแรงก็พัก
ร้องไห้บ้างสลับกันเพื่อบอกให้แม่รู้ว่าผมยังไม่ได้นมนะ ธรรมชาติช่างโหดร้ายเสียจริงๆ ผมซึ่งไม่ได้กินอะไรเลยเป็นเวลา
หลายนาทีก็หนักเอาการอยู่แล้ว นางพยาบาลก็ยังเอาผมไปแต่งตัว ทาครีม แล้วยังถ่ายรูปไว้ติดสมุดบันทึกการเกิด
พร้อมทั้งพิมพ์รอยเท้าผมอีก ทุกการเคลื่อนไหวล้วนทำให้ผมตกใจร้องไห้ทุกทีพ่อแสดงอาการออกมาให้เห็นว่า พ่อ
สงสารจับใจ พ่อคิดในใจว่าพ่อได้สร้างความทุกข์ให้ผมเสียแล้ว ต่อไปทุกข์ของผมก็จะมากขึ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามพ่อ
ก็ดีใจมากที่ผมครบ 32 และไม่มีตำหนิที่หน้าเกลียดใดๆ ที่จะส่งผลให้ผมมีปมด้อยในตอนโต จะมีก็แต่ตอนนี้ตัวเล็กมาก
แล้วก็มีขนทั่วตัว ซึ่งเป็นธรรมชาติของเด็กที่คลอดก่อนกำหนด แม่ยืนยันว่าหมอนับเวลาผิดไปหนึ่งเดือน

ดึกมากแล้วป้าจูนกลับไปแล้ว พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่ ส่วนพ่อนั้น เนื่องจากค้างไม่ได้ก็จะรออยู่จนรถเมล์เที่ยวสุดท้าย แล้วพรุ่งนี้ก็จะกลับมาใหม่ ซึ่งนับแต่นี้ไป ผมและครอบครัวก็จะต้องทำความรู้จักกันให้มากขึ้นหล่ะ


12/03/2004

พ่อคุณเป็นอย่างนี้หรือเปล่า



หลังจากแม่แช่ในน้ำในสภาพเปลือยเปล่าได้ไม่นาน อาการปวดก็บรรเทาลง คราวนี้คุณน้องสาวของโรงพยาบาล
ทั้งควักทั้งล้วงผม เพื่อให้ผมออกมาให้ได้ ก็แม่ผมเจ็บ ทุกๆ ครั้งที่แม่เจ็บ แม่จะถูกสั่งให้เบ่ง ก็เ่บ่งแบบเบ่งอึนั่น
แหละ เหมือนกับที่แม่ๆ คนอื่นชอบพูดกันว่าเวลาปวดท้องคลอดลูกมันก็คือปวดขี้นั่นแหละ เมื่อแม่เบ่ง ก็พ่อนี่แหละ
ที่ต้องคอยเหนี่ยวคอยรั้งแขนแม่ไว้ เพื่อให้แม่มีเรี่ยวแรงในการเบ่งมากขึ้น เมื่อท่านอนหงายผ่านไปหลายรอบการ
เบ่งแล้วไม่ส่งผลอะไร ก็หัวผมยังยืนระยะอยู่เท่าเดิม ผมก็อยากจะออกไปดูหน้าแม่เต็มแก่แล้ว แต่อะไรก็ไม่รู้ทำ
ให้ผมออกไปไม่ได้ นางพยาบาลผู้คว่ำหวอดอยู่ภายในห้องคลอดดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปครึ่ง
ชั่วโมงแล้ว เธอบอกให้เปลี่ยนท่าจากนอนหงายเป็นท่าก้งโค้ง สลับกับนอนหงายทุกๆ สิบนาที ช่วงเวลานี้ก็มีป้าจูน
เข้ามาช่วยเป็นล่ามให้ ทำให้พ่อแม่และผมสบายใจขึ้น เพราะการสื่อสารด้วยภาษามือเริ่มจะทำไม่ไหวแล้ว

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน คุณหมอตัวใหญ่มากหน้าเด็กใจดีก็เดินเข้ามาถามอาการด้วยรอยยิ้ม แล้วก็บอกแม่ว่าให้อดทน
การคลอดธรรมชาติยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถึงเวลานี้แม่เริ่มปากซีด ไม่รู้เพราะแช่น้ำนานหรือเริ่มหมดแรง แม่ถามถึง
ยาแก้ปวด นางพยาบาลส่ายหน้าบอกว่าที่นี่ไม่มีหรอก ลองอีกสองสามทีแล้วจะให้ยาพ่นจมูกเพื่อขยายช่องคลอด
แล้วก็เป็นดังคาด คือเ่บ่งเ่ท่าไหร่ผมก็ไม่ออก คุณหมอสาวสวยเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับยาพ่นจมูก แล้วกระบวนการ
เดิมๆ ก็เริ่มขึ้น คือเบ่งเวลาปวด ทำไปอีกสามสี่ครั้ง ผมก็คงอยู่ในท่าเดิมตำแหน่งเดิม หมอและพยาบาลเริ่มส่ายหัว
มองตากันปริบๆ แต่ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะเครื่องวัดหัวใจผม การบีบรัดตัวของมดลูกแม่ ยังทำงานปกติ ไม่แจ้งผล
อะไรให้ตื่นเต้น

แม่ถูกยกกลับขึ้นมาบนเตียง ด้วยข้อสันนิษฐานว่าน้ำมันอุ่น ทำให้ช่องคลอดไม่ขยายตัว หมอให้ลองขึ้นมาพักบนบก
ให้แม่ลองเ่บ่งอีกสองสามที พร้อมๆ กับพ่นจมูก ถึงตอนนี้แม่เริ่มแสดงอาการพูดภาษาอื่นไม่ได้นอกจากภาษาไทย
แม่ร้องบอกพ่อซึ่งต้องนี้ก็เหนื่อยอ่อนพอๆ กับแม่แต่ยังยิ้มเสมอว่า "ช่วยบอกให้หมอทำอะไรก็ได้ให้มันหายเจ็บ จะ
ผ่าท้องก็ได้ แม่ทนไม่ไหวแล้ว" คุณรู้ไหมพ่อบอกว่าไง พ่อบอกกับป้าจูนว่า "พี่ช่วยบอกหมอหน่อยเดะ ให้เอาน้ำ
เปล่าหรืออะไรก็ได้ แล้วหลอกแม่ว่าเป็นยาแก้ปวด" พ่อรู้ว่าหมอกับพยาบาลยังคงวินิจฉัยว่าแม่ยังมีแรง ยังคลอดตาม
ธรรมชาติได้ไม่มีอันตรายใดๆ

หลังจากที่แม่ถูกให้ลองเบ่งอีกสองครั้ง หมอก็ตัดสินใจให้น้ำเกลือแม่ ซึ่งไม่รู้ว่าหมอตื่นเต้นมาจากไหน ทิ่มแขนแม่
สองสามครั้งกว่าจะเจอเส้้นเลือด ทั้งๆ ที่มันเห็นชัดจะตาย นอกจากนั้นยังไม่พอ เธอพยายามจะติดตั้งเครื่องให้น้ำ
เกลือ แต่ยังไงมันก็ไม่ไหล มันจะไหลได้อย่างไรฟองอากาศมันเต็มท่ออยู่อย่างนั้น เมื่อหมอหมดหวังเลยเดินออก
จากห้องไปนัยว่าไปเปิดตำราหรือไม่ก็พักเหนื่อย ตอนนี้คุณพยาบาลก็ทนไม่ได้รีบมาจัดการกับเครื่องให้น้ำเกลือใหม่
เธอถอดสายยางที่แขนแม่ออก เท่านั้นแหละครับเลือดแม่พุ่งออกมาแล้ว พ่อที่อยู่ข้างๆ เอามือปิดตาแล้วเริ่มหายใจ
ถี่ พร้อมกับบอกแม่ว่าพ่อขอตัวน่ะ แม่ที่ยังเจ็บถึงกับยิ้ม ก็อาการพ่อเริ่มอีกแล้ว เห็นเลือดแล้วจะเป็นลม ผมก็นึกว่า
พ่อจะเป็นคนเดียว ปรากฎว่าป้าจูนไปยืนหลบมุมอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สรุปว่าเป็นเหมือนกัน ดูมันทุรักทุเรนิดหน่อย
แต่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

นอกจากให้น้ำเกลือแล้วหมอยังฉีดยาขยายช่องคลอดให้แม่อีก สักพักก็ได้ผม หัวผมเริ่มผลุดออกมามากขึ้น นอก
จากหัวผม อึแม่ผมยังผลุดออกมาสองก้อนอีกด้วย หมอและพยาบาลแทนที่จะเช็ดแล้วใส่ถังผง เปล่าพวกเธอก็เอา
มันป้ายไว้ข้างๆ นั่นแหละ หลังจากหมอและพยาบาลได้กลิ่นอึแม่ไปแล้ว หัวผมก็โผล่ชัดเจน พ่อซึ่งยืนดูอยู่ด้วยตา
ไม่กระพริบ เห็นนางพยาบาลล้วงช่องคลอดแม่แหวกเข้าไป ในที่สุดก็จับหัวผมได้ เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง เพราะขืน
ปล่อยไปนานผมจะหายใจไม่ออก เธอเลยใช้ความชำนาญรวบคอผมแล้วดึงผมออกมา ผมนะเหรอเป็นไง ทั้งตกใจ
และตื่นเต้น หรืออาจจะหิวนมก็ได้ เลยตะโกนสุดเสียง ดังลั่นไปทั่วทั้งโรงพยาบาล หมอถึงกับบอกว่า "ตัวเล็กนะ
แต่เสียงดังมากเลย" เมื่อทุกคนตั้งสติได้หายตกใจ พ่อยื่นหน้าไปดูผม พยาบาลก็ยื่นกรรไกรพร้อมกันจัดสายสะดือ
ของผมให้พ่อตัด แน่นอนครับ พ่อส่ายหัวบอกไม่ตัด ซึ่งพ่อมาบอกทีหลังว่า พ่อรู้ว่าผมไม่เจ็บ แต่สายสะดือกับ
ไส้อ่อนมันเหมือนกันเกินไป อือพ่อจะเอาสายสะดือผมไปจิ้มจุ่ม นางพยาบาลรออยู่ชั่วอึดใจแล้วก็ตัดใจยื่นกรรไกร
ให้ป้าจูนตัดแทน ป้าจูนก็ตะโกนโหวกเหวกว่า ก็ให้พ่อมันตัดสิ พ่อจึงต้องจำใจตัดพร้อมกับถอดหายใจเล็กๆ

หลังจากที่ผมถูกตัดสายสะดือเรียบร้อยโรงเรียนเยอรมันแล้ว ก็ถูกพันผ้าใส่ไว้ที่อ้อมอกแม่โดยที่ไม่ล้างตัวใดๆ ทั้ง
สิ้น แม่ตอนนี้ก็หายเจ็บแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือรอสิบนาที ดึงรกออก แล้วตรวจดูว่าอะไรที่มันควรจะหลุดออกมานั้น
มันหลุดออกมาครบหรือไม่ แล้วก็เป็นหน้าที่หมอมาเย็บปากช่องคลอดของแม่ต่อไป เป็นอันว่าผมเกิดออกมาเรียบ
ร้อย เห็นหน้าแม่ที่คอยดูแลเอาใจใส่ผมทุกวัน เห็นหน้าพ่อ คนที่คุยกับผมทุกวันแล้วหล่ะ