6/06/2006

เมื่อหมาท้องเสียมาก

ในบรรดาอาการเจ็บป่วยของผมในวัยหนึ่งขวบต้น ๆ นั้น ที่หนักที่สุดเห็นจะเป็นอาการจากเจ้าไวรัส
โรตา ไวรัสที่แพร่พันธุ์ได้รวดเร็วเมื่ออากาศเย็น ช่วงก่อนที่เราจะเดินทางกลับเมืองไทยเป็นช่วงที่
เรียกได้ว่าสาหัสที่สุดสำหรับเราสามพ่อแม่ลูก

ผลของการนัดกันหยุดงานของพนักงานเก็นขยะในเมืองฮาบวร์กนั้น ทำให้มองไปทางไหนทิศไหน
ก็เจอกองภูเขาขยะ ยิ่งกองไหนมีขยะเต็มอยู่แล้วผู้คนก็ดูเหมือนว่าที่นั่นเป็นที่ ๆ ดีที่จะนำขยะไปทิ้ง
ปัญหาขยะนั้นไม่ได้จบแค่ความไม่น่ามอง แต่ส่งผลให้ความสกปรกและเชื้อโรคแพร่กระจายไปได้
มากว่าที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะมองไปทางทิศใดก็พบแต่ผู้ป่วย นั้นไม่เว้นแม้แต่ผม

แม่ยื่นมันฝรั่งทอดให้ผมกัดเล่น ผมก็รับมันมากินเล่นเหมือนอย่างเคย เมื่อชิ้นที่สามผ่านลำคอลง
ไป เหตุการณ์ไม่คาดฝัน (เพราะยังอ่านหนังสือไม่ถึงบทนี้) ก็บังเกิดขึ้น อาหารเช้าคาวหวานทั้ง
หมดทั้งปวงได้นัดกันผละจากรังอันเป็นที่อยู่ พากันพุ่งออกมาทางปากเล็ก ๆ ของผม ด้วยความ
ไม่เคยและใหม่ต่อเหตุการณ์อันน่ากลัวนี้ ผมก็ปล่อยโฮออกมา ด้วยความที่เป็นพ่อที่เจนจัดทาง
ด้านจิตวิทยา พ่อก็รีบผละจากการเช็ดพวกอาหารไม่รักบ้านเหล่านั้น มาที่ผมแล้วรีบปลอบใจผมว่า
ผมไม่ได้ทำอะไรผิด นี่เป็นอาการป่วย แต่คำพูดปลอบใจนั้นใช่ว่าจะทำให้จิตใจอันอ่อนไหวยาม
ที่ร่างการอ่อนแอนั้นกลับมาแข็งแกร่งได้ ผมยังคงปล่อยน้ำตาอุ่น ๆ ให้ไหลอาบแก้มอยู่ตลอดเวลา

ผมยังคงมีอาการอาเจียนอย่างนี้อีกสองสามครั้ง เริ่มแรกพ่อกับแม่คิดว่าสาเหตุอาจจะเนื่องมา
จากมันฝรั่งทอด เพราะกินครั้งที่สองก็เป็นอีก แต่แล้วเราก็รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นไม่ใช่อาเจียนแต่
เป็นผลเนื่องมาจากไวรัสโรตาไปทำลายระบบย่อยอาหาร ผลพวงต่อมาก็คือผมท้องเสียอย่างรุนแรง
ไม่ว่าจะกินอะไรก็ถ่ายมาหมด ถ่ายวันละห้าถึงหกครั้ง จากสภาพหมาอ้วนเวลาผ่านไปสามวันผม
ก็กลายเป็นหมาบักโกรก ในครั้งนี้เริ่มแรกไม่แย่เท่าไหร่เราไปหาหมอ พ่อแม่รู้ว่าผมควรจะกินอะไร
ไม่ว่าจะเป็น Heinahrung ข้าวต้มผสมเกลือ หรือน้ำเกลือแร่รสชาติไม่ได้เรื่อง เวลาผ่านไปหนึ่ง
อาทิตย์ผมก็ยังไม่หาย ยังคงถ่ายขั้นต่ำวันหละสามครั้ง

อาทิตย์แรกผ่านไปอย่างไม่มีอะไรน่าห่วงนัก ทุกอย่างเดิม ๆ อึแล้วก็เช็ด กินแล้วก็อึ อาหารแทบ
ไม่ได้ย่อย น้ำหนักยังคงลดอย่างต่อเนื่อง ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าเดี๋ยวก็หายเองตามมาตรฐาน
ของหมอเยอรมันคือ การไปหาเืพื่อให้ได้ยาฟรี กล่าวคือถ้าซื้อเองก็ได้ยาแบบเดียวกันแต่ต้องเสีย
เงิน ดังนั้นการเสียเวลาไปนั่งรอหมอทั้ง ๆ ที่นัดไว้แล้วอีกประมาณชั่วโมง แต่ไม่ต้องเสียค่ายาเอง
ก็ยังสรุปได้ว่าดีกว่า เมื่อเริ่มต้นวันแรกของอาทิตย์ที่สอง ผมเริ่มได้ยินแม่พูดว่า"แม่ไม่ไหวแล้วนะ"
เป็นครั้งแรกที่สภาพแม่เริ่มแสดงให้เห็นว่าแย่กว่าผม ในขณะที่พ่อยังต้องไปทำงานวิจัยทุกวัน แม่
เองก็แทบไม่ได้พักผ่อน ผมก็ยังคงอึรดที่นอนแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเป็นบางวัน ในยามที่คนอื่นนอน
หลับไหล พ่อกับแม่ยังคงต้องสลับกันลุกไปเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ผม

คุณคงไม่รู้ว่า ผมเป็นหนักมากแค่ไหน แต่แม่และพ่อสัมผัสได้เพราะยามใดที่ผมพยายามทำสิ่ง
ที่เคยทำได้ ผมทำไม่ได้แล้วแม้กระทั้งลุกขึ้นยืนเอง ถึงตอนนี้พ่ออนุมัติให้ผมกินยาหยุดถ่ายซึ่ง
เราซื้อเตรียมไว้แล้ว (ถามเภสัช) และผมก็ถูกบังคับให้กินบ่อยที่สุดเท่าที่จะบังคับผมได้ อาการ
ของผมนั้นดีวันดีคืน สภาพอึเิริ่มแสดงให้เห็นว่ามีการย่อยสลายบ้างแล้ว และจากห้าหกก็ลดลง
เหลือสาม นั้นคือผมคงพร้อมที่จะบินกลับเมืองไทยแล้วหล่ะ

เมื่อผมอาการดีขึ้น พ่อกับแม่ก็ได้ข้อสรุปว่า

ท้องเสียดีกว่าอาเจียนเนาะ

Keine Kommentare: