3/15/2005

กลับบ้าน

รถญี่ปุ่นคันโตที่ขับโดยย่าเยอรมันพาเราสามคนกลับสู่บ้านอันแสนสุขอีกครั้ง ก่อนจะได้กลับผมต้องแต่งตัว
อย่างรัดกุมมากๆ ก่อนจะถูกจับนอนลงในกระเป๋าแคบๆ ซึ่งในตอนนั้นก็ยังดูว่าใหญ่โตเกินไปสำหรับผม
กระเป๋าใบนี้พ่อกับแม่ได้ซื้อไว้ก่อนผมเกิดประมาณอาทิตย์กว่าๆ ถึงใบจะเล็กแต่ราคาก็สูงมากถึง 59 ยูโร ทั้งๆ ที่เป็นยี่ห้อธรรมดา ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อยอดนิยมเพราะราคาถูกคุณภาพปานกลาง ซึ่งถ้าเป็นของที่ดีกว่านี้
หรือยี่ห้อที่คนมีเงินใช้กันก็จะราคาสูงขึ้นไปอีกเท่าตัว พูดถึงกระเป๋าใบนี้ พ่อและแม่ต้องใช้ความพยายาม
อย่างมากกว่าจะได้มันมา ไม่ว่าจะเข้าไปประมูล ebay หรือไปเดินหาตามร้านค้าทั่วไป กว่าจะได้ต้องใช้
เวลาหลายอาทิตย์ทีเดียว



การแต่งตัวเพื่อออกไปสู่โลกภายนอกของผมนั้น นอกจากกระเป๋าแล้ว ผมจะต้องมีหมวกที่ปิดหูได้และหนา
พอที่จะป้องกันผมจากความหนาวได้ เรื่องหมวกนี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พ่อและแม่ต้องใช้ความพยายาม
มากกว่าปกติ เพราะว่าของสำหรับเด็กที่นี่ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะทำไว้เพื่อคนที่ตัวโตกว่าผมทั้งนั้น
ทั้งที่จริงๆ แล้วเด็กแรกเกิดทั่วโลกขนาดจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ผมดันไปเกิดในกลุ่มตัวเล็กเอง ทำให้ไม่
ว่าจะเป็นหมวกใบที่แม่กับพ่อเลือกซื้อมา เสื้อผ้าชั้นใน ผ้าอ้อมสำเร็จรูป รวมไปถึงเสื้อกันหนาวชั้นนอก
ดูจะใหญ่โตเกินไปสำหรับผม เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่มีอยู่ตอนนั้นก็มีของย่ากับยายซึ่งส่งมาจากเมืองไทย
ที่ส่วนใหญ่นั้นใหญ่เิกินไปสำหรับผมจริงๆ สาเหตุก็เนื่องมากจากข้อจำกัดหลายๆ อย่าง เช่นเสื้อผ้าต้อง
หนา ทำให้ทางเลือกที่เมืองไทยมีไม่มากนัก เสื้อผ้าที่พอจะใส่ได้ก็จะเป็นของพี่ลูกครึ่งข้างบ้าน กับชุดที่
น้องๆ นักเรียนไทยไปซื้อต่อจากเพื่อนอีกที ชุดเหล่านี้เล็กพอที่จะใส่แนบเนื้อผม และหลายๆ ตัวก็เป็นชุด
เก่งเลยหล่ะ

การแต่งตัวออกจากบ้านของผมจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากดังนี้
  1. ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ใส่ชุดในที่เรียกกันว่า body
  2. ใส่ชุดนอกซึ่งอาจจะเป็นชุดไม่มีแขน กรณีที่ body เป็นแขนยาว ชุดนอกนี้ถ้าจะให้ดีต้องเป็นชุด ที่มีถุงเท้าในตัว และมีกระดุมที่ขากับก้น เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป
  3. ใส่ถุงมือ ที่หนาพอสมควร
  4. ใส่เสื้อกันหนาวชั้นนอก
  5. ใส่หมวก
  6. ใส่กระเป๋า
กว่าจะเสร็จสำหรับพ่อแม่มือใหม่ก็กินเวลานานมากๆ ทั้งนี้เพราะว่าทุกครั้งที่ผมร้องเนื่องจากไม่สบายเนื้อ
สบายตัว หรือโดนขัดใจบังคับให้ยัดแขนใส่โน่นใส่นี่ พ่อแม่ก็จะหยุดด้วยความกลัวว่าคิดว่าผมจะเจ็บ ใส่ๆ
หยุดๆ กว่าจะเสร็จได้ก็กินเวลานานมาก ในครั้งแรกนี้เนื่องจากย่าเยอรมันรออยู่ (ต้องไปทำงานต่อ ทิ้งงาน
มารับผมทีเดียว ย่าใจดีกับผมากๆ) และชุดนอกที่พ่อซื้อให้นั้นใหญ่มากๆ ผลที่ได้จึงออกมาดังรูปข้างล่าง
รูปทางซ้ายคือตอนปกติ รูปทางขวามือคือพร้อมที่จะออกแล้ว


ช่วงแรกๆ นี้เสียงร้องของผมจะน่าสงสารมากจริงๆ นะ พ่อกับแม่จึงไม่ค่อยกล้าทำอะไรแรง ผิดกันกับคุณ
พยาบาลที่ทำผมแบบรุนแรงมากเลย นัยว่ายิ่งเร็วยิ่งทำให้ผมได้รับความเจ็บปวดน้อย

7 Kommentare:

Isriya hat gesagt…

รูปนี้น่ารักโคตรอะ

Beamer User hat gesagt…

พ่อก็น่ารักนะ

Isriya hat gesagt…

-_-''

ตรงแก้มนี่เป็นอะไรเหรอครับ ปานเหรอ

Beamer User hat gesagt…

หมอทำยาหยดใส่ (มุก) ปานครับ แต่ตอนแรกเกิดไม่มี

the ancient hat gesagt…

ที่นั่นค่ากินกับค่าอยู่เดือนประมาณกี่ euro อ่ะ?
แล้วค่าเช่าบ้านในโซนที่ถูกๆของ Magdeburg ประมาณเท่าไหร่พอรู้ป่าว เห็นราคากระเป๋าใบตั้ง 59 นึกถึงเงินเดือน 1000 แลกกับได้เขียน ObjC จะคุ้มเหรอวะเนี่ย

Beamer User hat gesagt…

ที่ Hamburg ที่พี่จอยอยู่ 3 ชีวิตใช้ประมาณเดือนละ 900ยูโร นี่รวมทุกอย่างแล้ว (ค่าประกันสุขภาพเดือนละ
160 ยูโร) ค่าเช่าบ้าน 2 ห้อง (ไม่รวมครัวกับห้อง
น้ำ) 47 ตารางเมตร ก็ประมาณ 450 ยูโร รวมน้ำไฟด้วย

ถ้าทำกับข้าวกินเอง 200 ยูโร ก็อยู่สบายๆ นะ (3 คน)

เงินพันยูโรตัวคนเดียว กินเที่ยวด้วย น่าจะอยู่สบายๆ
น้องๆ ที่นี้ 500-700 ยูโร ก็พออยู่ แต่ถ้าอยากกินดีอยู่ดี
หน่อย ต้องหมั่นอ่านใบปลิวเพื่อดูของลดราคา และซื้อ
ของเมื่อมันลดราคา ซึ่งมันมีบ่อยมากๆ

ปล. สินค้าสำหรับเด็กมันแพงมากกว่าปกติน่ะ

the ancient hat gesagt…

ขอบคุณจ้ะ อยู่โน่นคงไม่ได้เที่ยวหรอก อีกสองสามปีอาจจะไปแต่คงดูสถานการณ์ก่อน ปีนี้โดนจองตัวสอนหนังสือที่นี่