5/18/2005

เมื่อหมาอ้วนโดนฉีดยา 2



ผมถูกจับนอนในรถเข็นคันโตสีน้ำเงินเข้มออกจากบ้านแต่เช้าตรู่
พ่อเองยังดูง่วงๆ ซึมๆ อยู่ แต่ด้วยภาระอันใหญ่หลวงที่ต้องทำให้
ผม ทำให้พ่อไม่เคยพลาดที่จะตื่นมาช่วยแม่ดูแลแต่งตัวให้ผม
บอกได้เลยว่าปกติแล้วพ่อเป็นคนเฉื่อยแฉะมากๆ

รถเข็นของผมถูกเข็นผ่านถนนที่ไม่รู้ว่ามีอายุกี่ร้อยปี ลักษณะก็
คล้ายถนนเก่าแก่หลายๆ แห่งในยุโรปแทนที่จะฉาบปูนหรือราด
ยางมะตอยเรียบๆ กลับคงอนุรักษ์ไว้ให้เป็นถนนที่ทำจากก้อนหิน
ที่วางต่อๆ กัน ข้อเสียของมันก็คือมันทำให้หัวผมกระดอนตาม
การขยับขึ้นลงของล้อรถเข็นยามที่มันตกลงไปร่องหินแล้วถูกพ่อดันขึ้นมา เมื่อก่อนพ่อไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ วางผมบน
รถแล้วๆ กัน ก่อนที่หัวผมจะบี้แบนมากไปกว่าที่เป็นอยู่นี้ พ่อก็รู้แล้วเอาหมอนมารองหัวผมก่อนที่จะเข็นผมผ่านถนน
โลกพระจันทร์ นานๆ เข้าก็เลยเอาหมอนดังกล่าวทิ้งไว้บนรถซะเลย

วันนี้ผมจะไปฉีดยาเข็มแรก ซึ่งถ้าอยู่ประเทศโลกที่สาม หรือประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าเยอรมันอย่างเช่น
อังกฤษ หรือลิเบีย ผมก็คงถูกฉีดยาเข็มแรกไปตั้งแต่วันแรกๆ ที่ลืมตาได้แล้ว หัวข้อนี้ถูกยกขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนา
ยามเช้าแทนการกินกาแฟของพ่อกับเพื่อนชาวลิเบีย เพื่อนพ่อชาวลิเบียคนนี้ก็พึ่งมีลูกสาวที่มีอายุห่างจากผมไม่ถึง
สามเดือนเช่นกัน ด้วยความเป็นคนที่ไม่ยอมเสียเปรียบแต่ก็ไม่ยอมให้เปรียบใครเหมือนกัน ลุงลิเบียก็เลยถามถึง
เรื่องการฉีดวัคซีนกับพ่อมิได้ขาด พ่อก็บอกตามนิสัยว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวหมอก็บอกเองหล่ะว่าต้องฉีดแล้วนะ
แต่ลุงลิเบียไม่ยอมหยุดง่ายๆ ด้วยเหตุผลข้างต้นว่า 90% ของประเทศในโลกใบนี้ล้วนแต่ฉีดวัคซีนให้เด็กแรกเกิด
ทั้งนั้น แต่ผมปาเข้าไปสองเดือนกว่าแล้ว ยังไม่พบว่ามีเข็มที่ยาวเกินหนึ่งเซนติเมตรเล่มไหนทะลุผ่านหนังกำพร้าไป
ได้เลย ความกังวลของลุงลิเบียนี้ได้ไปสร้างความลำบากให้กับย่าเยอรมันอย่างมาก เพราะเธอถูกร้องขอให้หาข้อ
มูลเรื่องนี้ให้ทั้งเช้าและเย็น ยกเว้นวันหยุด

จริงๆ แล้วพ่อก็ไม่สนหรอก ด้วยเชื่อมั่นเสมอว่าเดี๋ยวหมอก็ฉีดให้เองแหละน่า นี่ถ้าไม่ใช่ย่าเยอรมันกับแม่มีชะตา
ต้องกันมาตั้งแต่สุโขทัยเริ่มสร้างชาติหล่ะก็ ป่านนี้ผมอาจจะยังไม่ได้รับเชื้อโรคอ่อนแรงใดๆ เข้าไปในร่างกายเลย

เย็นวันหนึ่งแม่เดินยิ้มเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อ พร้อมกับแจ้งข้อมูลที่คนวงในเท่านั้นที่จะรู้ ชาวบ้านร้านตลาดรับ
รองได้ว่าไม่มีทางได้ยินถึงหูแน่ ข่าวนั้นแม่ได้มาจากย่าเยอรมัน ก็ไม่ใช่เรื่องอื่นคือเรื่องฉีดวัคซีนนั่นเอง ย่าผมถูก
ลุงลิเบียร้องขอให้หาข้อมูลให้ ที่นี่ก็แปลกจะฉีดวัคซีนให้เด็กก็หลังสองขวบไปแล้ว และจะไม่ฉีดหรือบอกข้อมูลให้
ถ้าไม่ได้ถูกร้องขอจากผู้ปกครอง (ที่เยอรมันคนที่อยู่นานๆ จะรู้เองว่าถ้าไม่ถามจะไม่บอกไม่ว่าเรื่องนั้นจะสำคัญ
ขนาดไหน) แม่ชี้ให้พ่อดูถึงตารางการฉีดวัคซีนซึ่งต้องถกกันเล็กน้อยเพราะเป็นภาษาของย่าไม่ใช่ของแม่ เอาเป็น
ว่าตอนที่รู้ข้อมูลนี้ผมก็สามเดือนแล้ว ดีที่ไม่เป็นอะไรไปซะก่อน

เมื่อรถเข็นยี่ห้อแพงแต่เก่าของผมถูกเข็นมาถึงโรงหมอแล้ว หมอที่รับฉีดยาและตรวจสุขภาพตามตารางเวลานี้ดู
หน้าตาจะแปลกไป สาวขึ้นและดูอารมณ์ดีขึ้น ก็ไม่แปลกเพราะไม่ใช่ยายหมอแล้วแต่เป็นป้าหมอ ป้าหมอเซ้งร้าน
หมอเด็ก 1 ใน 2 ของร้านหมอเด็กที่เมืองที่ผมอยู่จากยายหมอ เธอดูดีแต่แก่ไปหน่อยพ่อบอก หลังจากที่ผมถูก
ตรวจสิ่งที่เรียกว่า U4 ไปแล้วนั้น หมอก็เริ่มขบวนการฉีดวัคซีนให้ผม โดยการไปนำวัคซีนมา แล้วอธิบายให้แม่
ทราบถึงตัววัคซีนที่รวมอยู่ในเข็มเดียว พ่อก็ฟังอยู่ด้วยแต่ไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าเหมือนเมืองไทยยกเว้นไม่มีการฉีด
ป้องกันวัณโรค (เยอรมันปลอดวัณโรคแล้ว และจะอนุญาตให้ฉีดวัคซีนสำหรับโรคนี้ได้หลังจากอายุั 18 ปี) อีกนั่น
แหละเรารู้เพราะว่าแม่ถาม

หมอสาวใหญ่จับผมขึง กางแขนกางขาในขณะที่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปยังไม่ได้ถูกถอดออก แต่เสื้อและกางเกงไม่มี
แล้ว นอกจากนั้นยังมีสาวน้อยน่ารักกางเกงเอวต่ำสีขาวบางใสมาคอยช่วยอีกแรง ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่สงสัย
อยู่เพราะพ่อบอกว่าที่พ่อเคยเห็นน่ะ เค้าจะให้พ่อแม่อุ้มแล้วฉีดที่ตูด แต่นี่จับผมขึงทำไมกัน หมอสาวคงรู้ดีถึง
ความสงสัยนี้ เธอเลยจับหน้าโคนขาข้างขวา(หรือซ้ายหว่า) ของผมแล้วหัวเราะพร้อมกับบอกว่า ที่เยอรมันเราทำ
กันตรงนี้นะ ว่าแล้วเธอก็จับเข็มในท่าปาลูกดอก แล้วก็จิ้มจึกลงบนหน้าขาผม ซึ่งตรงนี้ผมรู้ดีว่าหมอไม่ได้ใจร้าย
หรอกที่จิ้มแรงอย่างนั้น แต่ตามตำราเค้าบอกว่าให้จิ้มลึกๆ ไม่งั้นมันจะเป็นไตแข็งสร้างความเจ็บปวดให้เด็กน้อย
อย่างผมได้ พ่อกับแม่รู้สึกตกใจไม่ใช่น้อยที่เมื่อผมถูกจิ้มจึกแล้วไม่ยักกับร้อง ผมไร้ความรู้สึกหรืออย่างไรเนี่ย
เพื่อสร้างความงุนงงยิ่งขึ้นผมก็ยิ้มซะเลย เมื่อหมอรู้สึกว่าเข็มเข้าที่เข้าทางแล้วก็บรรจงกดนิ้วโปงเพื่อดันให้วัคซีน
ไหลเข้าไปในสายโลหิตของผม ได้ผลผมร้องจ๊ากแล้วมองหน้าหมออย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าหมอที่น่ารัก
จะทำผมได้ลงคอ แง แง ไม่ได้ผล หมอก็หัวเราะชอบใจหน้าระรื่น แล้วก็แปะพลาสเตอร์อันเล็กๆ ตรงรอยแผล

ตามธรรมดาหลังฉีดวัคซีน ย่อมต้องมีผลข้างเคียง กล่าวคือผมอาจจะเป็นไข้ก็ได้ ดังนั้นควรจะได้รับการดูแลเป็น
พิเศษ พ่อก็ถามด้วยความเป็นห่วงว่าต้องดูแลอะไรผมเป็นพิเศษหรือเปล่า หมอสาวยิ้มพร้อมกับทำหน้าฉงนว่า
ต้องด้วยเหรอ พ่อก็เลยบอกว่ากลัวว่าจะเป็นไข้น่ะ หมอก็ถึงบางอ้อตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า อืม ก็ไม่ต้องดูแล
พิเศษอะไร แค่ระวังอย่าให้ผมหนีไปว่ายน้ำเล่นก็แล้วกัน

6 Kommentare:

NOI hat gesagt…

ผมขึ้นแล้ว มีแววหล่อมาแต่ไกล :D

NOI hat gesagt…

ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. คำแนะนำจากหมอฮามาก ... ว่าแต่จะรวมไปถึงการไม่ให้อาบน้ำด้วยหรือเปล่าครับ ?

คืออยากรู้ว่าที่ให้ระวังไม่ให้หนีไปว่ายน้ำ เพราะถูกน้ำไม่ได้ หรือว่ากลัวว่าพลาสเตอร์ที่ปิดแผลจะหลุด

ที่ถามเพราะสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนที่ฉีดน่ะครับ ไม่รู้จะเหมือนพวกสุนัขหรือเปล่า ที่ฉีดวัคซีนบางชนิดแล้วห้ามโดนน้ำอยู่ระยะเวลาหนึ่ง

Beamer User hat gesagt…

คงแค่เรื่องแผลมั้งครับ

NOI hat gesagt…

ขอบคุณครับ :D (ตอบทันใจดีจัง) ;)

NOI hat gesagt…

แวะเข้ามาดูรูปหลานทุกวัน เห็นทีไรก็ต้องอมยิ้มให้ทุกที :)

bact' hat gesagt…

ขอให้แข็งแรง ๆ ครับ

ฝนตกบ่อยด้วยนะช่วงนี้
(ไม่รู้ที่โน่นตกป่าว ดูในพยากรณ์อากาศเหมือนแถวนั้นจะแดดดีกว่าแถวนี้)