6/09/2005

ตะลุยแดนกังหันลม 2



เราได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากจากแฟนของพี่ปูปลา
หลังจากที่เรากับสมาชิกที่เหลือได้รวมกันหมดแล้ว เราก็เจอพี่
ปูปลาโดยบังเอิญ แน่หละเราไม่ได้ร่วมทางไปกับพี่ปูปลา แต่
เราก็รู้ว่ารถไฟอีเซเอ(ICE) จะมีห้องพักสำหรับแม่ลูกอ่อนเสมอ
แต่พี่ๆ หลายคนบอกว่าไม่เคยเห็น แล้วทำหน้างุนงงว่ามีด้วยเหรอ
อย่างไรก็ตาม เจ้ามังกรตัวยาวสีขาวนวลก็วิ่งมาถึงแล้วทำให้
ประเด็นการโต้แย้งต้องหยุดลงก่อนชั่วขณะ เป็นที่รู้กันว่ารถไฟ
ที่นี่ไม่รอใคร ขืนมัวโอ้เอ้อยู่เป็นอันได้ตกรถพอดี

พวกเราแปดคน แต่จะบอกว่าเจ็ดคนกับหนึ่งตัวก็ได้น่ะ เพราะว่าผม
เป็นหมา พ่อแซวผมบ่อยๆ เวลาพาผมเข้าไปในร้านที่ไม่อนุญาต
ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วย เราพยายามเลือกโบกี้ที่มีตู้ส่วนตัวสำหรับกลุ่มคนแต่ไม่ได้ เพราะมีคนจองไว้หมดแล้ว
ทั้งที่เลือกได้ยากเย็นแสนลำบากเพราะเจ้ามังกรตัวยาวสีขาวมันตัวยาวมาก ยาวเกินกว่าที่เราจะวิ่งไปวิ่งมาเพื่อเลือก
ตู้รถได้ตามใจชอบ แต่การหาที่นั่งนั้นยากลำบากกว่า คนเยอรมันก็เหมือนกับคนไทย ชอบเลือกที่จะนั่งเดี่ยวๆ และ
ที่นั่งคู่แทบทั้งหมดก็จะมีคนจองไว้นั่งคนเดียวเกือบหมดแล้ว แต่แน่หละเรายังพอหาที่นั่งสำหรับพวกเราได้ พ่อเสีย
สละทั้งที่ง่วงตาจะปิดอาสาดูแลผม ในขณะที่แม่ซึ่งตื่นเช้าและต้องคอยดูแลจัดข้าวของถูกบังคับให้นอนหลับ ผมเอง
ก็ถูกบังคับให้หลับเช่นกัน และที่สำคัญพ่อสั่งผมไม่ให้ส่งเสียงดังในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องการนอนเช่นนี้ เรามีเวลาอีก
เพียงชั่วโมงครึ่งสำหรับเจ้ามังกรยาวตัวนี้ เพราะราต้องไปเปลี่ยนมังกรอีกตัวประมาณ 7.30 ที่อีกเมืองหนึ่ง

วันนี้พ่อแม่คงแปลกใจว่าผมทำตัวดีเป็นพิเศษ แต่แน่หล่ะผมก็ไม่นอนเหมือนปกติ ก็มีสิ่งล่อตาล่อใจให้ดูเยอะแยะ
ไปหมด สมาชิกทั้งหมดลงจากรถไฟขบวนยาวสีขาวที่ผมเรียกมันว่ามังกรตัวยาว สิ่งที่แย่ที่สุดที่พ่อและแม่ต้องเจอ
ก็คือมันไม่มีลิฟท์ยกของ แน่หล่ะสิ หมาตัวเล็กขนาด 7 กิโล บวกกับน้ำหนักของรถเข็น และกระเป๋าสัมพาระอีกเยอะ
แยะ ใครจะไปแบก แม่เลยตัดสินใจใช้ความรู้ภาษาเยอรมันที่ดีมากแต่ไม่ค่อยยอมใช้ของแม่ไปถามพนักงานดูแล
สถานี จะด้วยความสวยของแม่หรือความยอดเยี่ยมของภาษาเยอรมันที่แม่ใช้ก็ไม่รู้ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ยอมเปิดลิฟท์
ขนของที่ปกติจะไขกุญแจให้เฉพาะเวลาต้องขนของเท่านั้นให้เราสามชีวิตใช้ ถึงห้องโดยสารในลิฟท์จะสกปรกและ
ดูน่ากลัวเพียงใด ก็ยังดีกว่าที่พ่อของผมต้องออกแรกที่เกินกำลังแหละน่า เอาเป็นว่าเวลานี้เราได้มาถึงสถานีรอไฟ
อีกต่อหนึ่งแล้ว เราเดินทางมาจนสุดที่จะกลับตัวกลับใจได้แล้ว พ่อดูจะคลายกังวลไปมากแล้วหล่ะ

2 Kommentare:

Beamer User hat gesagt…

ขอบคุณมาก bact' พี่รู้คำตอบแล้ว คำตอบอยู่ที่เว็บของ
สถานฑูตที่ London ปกติที่นั่นจะทำเรื่องเอกสารดีมาก
(ของเยอรมันห่วยมาก)

คือเราสามารถใช้ของเก่าได้จนหมดอายุนะครับ แต่ต้อง
ทำใหม่ทุกๆ 5 ปี คนที่จะมีปัญหาคือคนที่ passport จะ
หมดอายุในช่วงเดือนสองเดือนนี้ เพราะเค้าจะติดตั้งเครื่อง
มือ ทำให้ไม่สามารถทำใหม่ได้ แต่สามารถร้องขอเป็น
กรณีพิเศษได้

ที่น่ากลัวคือเราจะเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้ e-passport
รู้สึกกลัวน่ะ

NOI hat gesagt…

เข้าไปดูรูปเต็มๆ ที่ flickr มาเมื่อตะกี้ มี comment น่ารักปนฮา บนรูปด้วย เจ๋งจัง :D