8/12/2005

ลงรถ ขึ้นเรือ


คำกล่าวที่ว่า "ขึ้นรถ ลงเรือ ไปเหนือ ล่องใต้"
คงจะใช้กับการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ เมืองคน
ค่อมสะท้านโลกที่เราไปถึงนี้ก็เหมือนกับเมือง
อื่นๆ ทั่วๆ ไปในยุโรป คือมีถนนแคบๆ เยอะแยะ
ไปหมด ไปไหนมาไหน ถ้าไม่เมื่อย การเดินก็
คือการเดินทางที่ดีที่สุด คณะเดินทางตัดสินใจ
พักรับประทานอาหารราคาถูกก่อนจะไปขึ้นเรือ
ผมจำได้แม่ว่าตั้งแต่ร้านอาหารที่มีสัญลักษณ์
เป็นตัวเอ็มแห่งนี้มีสินค้าราคา 50 บาท กินหนึ่ง
ชิ้นไม่อิ่มขึ้นมา มันก็ทำให้พ่อกับแม่มีทางเลือก
มากขึ้น แทบทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก พ่อกับ
แม่ก็จะลงทุนควักกระเป๋าซื้ออาหารที่ว่ากินทุก
ครั้ง จนบัดนี้หน้าพ่อก็ได้กลายเป็นเบอเกอร์ไก่
ไปแล้ว

แต่แน่นอนหล่ะ ผมคนหนึ่งที่ไม่ชอบอาหารไร้
คุณค่าราคาถูกพวกนี้หรอก ยังไม่ทันไรพ่อก็ยื่น
ขวดนมขวดเก่าที่ผมเห็นจนชินตาตั้งแต่เกิดให้ น้ำนมอาจจะมีรสชาติเปลี่ยนไปบ้างตามอายุผม
แต่มันก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง ถึงมันอร่อยสู้น้ำนมแม่ไม่ได้แต่มันก็ดีกว่าเบอเกอร์ไก่ละน่า ใน
ขณะที่ผมตั้งหน้าตั้งตาดูดนมจากขวด พ่อก็จัดการกับเบอเกอร์ไก่ชิ้นที่สองหมดแล้วด้วยเวลาอัน
รวดเร็ว พ่อกับแม่หันไปมองหน้ากันโดยพ่อทำทีว่าถ้าแม่ไม่กินอีกชิ้นที่เหลือ พ่อจัดการก็ได้นะ
ส่วนแม่ก็รู้ใจ รีบยื่นให้ทันที ในขณะนั้นพวกพี่ๆ ก็กำลังถ่ายรูปกันและกันอยู่อย่างสนุกสนาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพี่ริกที่ได้รับเกียรติอันน่าภาคภูมิใจ ในการเป็นหนึ่งในของแปลกที่น่าจดจำ

เวลาผ่านไปได้ซักพัก เมื่อเวลาเหลือไม่มาก และผมก็อิ่มแล้ว โดยการสบัดจุกนมออกจากปาก
อันน้อยนิด ก็เป็นอันว่าทุกคนรู้ว่าผมอิ่มแล้ว เดินทางต่อได้ แม่อีกตามเคยที่พร้อมก่อนคนอื่น
ในขณะที่พ่อก็เป็นคนคอยตรวจสอบความผิดพลาดอันพึงจะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจว่า
ลืมของหรือไม่ ถ้าอันไหนพ่อมั่นใจว่าไม่ลืมแล้ว พ่อก็จะแกล้งแหย่แม่กับพี่ริกว่าลืมของหรือเปล่า
จนป่านนี้แล้ว พี่ริกก็ยังไม่วายห่วงหนังสือเดินทาง เมื่อพ่อทักพี่ริกก็กำมันแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม

ขบวนของเราเวลาเดินจะแยกเป็นสามกลุ่มค่อนข้างชัดเจน พวกที่นำหน้าก็คือพวกที่จะต้องรับผิด
ชอบขบวนให้ไปถึงที่หมายในเวลาที่กำหนด พวกที่อยู่ตรงกลางก็จะคอยทำหน้าที่ไม่ให้พวกที่รั้ง
ท้ายหลงและคอยตรวจสอบการตัดสินใจของพวกแรก ในขณะที่กลุ่มสุดท้ายจะเป็นกลุ่มที่สำคัญ
ที่สุดเพราะต้องคอยเก็บรายละเอียดของการเดินทาง ยกตัวอย่างเช่นพี่ริก พี่โซ่ พี่เจิน ก็จะทำ
หน้าที่เก็บภาพถ่ายร่วมกับคิงคองยักษ์หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง หรือไม่ก็เก็บภาพที่เป็นสัญลักษณ์
แปลกประหลาดร่วมกับอนุสาวรีย์ เป็นต้น ถ้าขาดกลุ่มสุดท้ายนี้พวกเราก็คงจะมีแต่รูปวิวสวยๆ ของ
พี่เอกเป็นแน่ ผมเองจะอยู่ในกลุ่มกลางสลับกับกลุ่มหน้าเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนรับผิดชอบ
รถเข็นของผม ถ้าเป็นพ่อผมก็จะอยู่กลุ่มกลาง ถ้าเป็นแม่ผมก็จะซิ่งไปอยู่กลุ่มหน้า จะมีบ้างบางครั้ง
ที่พ่อจะย้ายไปอยู่กลุ่มหน้า แต่ก็ไม่บ่อยนัก

พ่อแกะแผลสิวสีดำดวงใหญ่ที่ขึ้นตรงลักยิ้มพอดีเล่น ในขณะที่พี่เอกรับหน้าที่ไปถามเจ้าหน้าที่ที่ท่า
เทียบเรือ เราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว เรือที่เราต้องนั่งไปกำลังจะออก เจ้าหน้าที่กำลังนับจำนวนลูก
เรือเล่น พี่เอกหันหน้ามาช้าๆ บอกพวกเราว่า เรือที่เราต้องไปด้วยนั้นอยู่ห่างออกไปอีกห้าร้อยเมตร
พ่อดูนาฬิกาเข็มเรือนเดิม มันบอกพ่อว่าเราเหลือเวลาอีก 5 นาที ทุกคนพยักหน้ารับ แล้วพวกเราก็วิ่ง
ในขณะที่พึ่งวิ่งมาได้ไม่นาน เพราะเข้าใจผิดว่าท่านี้แหละ พลังงานของพวกเราเหลือน้อยเต็มที นี่ถ้า
เราไปไม่ทันมันก็คงจะทำให้เรามีเวลาว่างมากขึ้นอีกสามสี่ชั่วโมง แต่นั่นจะทำให้เราพลาดสิ่งที่สวย
งามที่สุดแห่งหนึ่งของแดนกังหันลมแห่งนี้ แม่อีกแล้วที่ทุกคนยังคิดอะไรไม่ออก ผมและแม่ก็นำ
หน้าออกไป โดยมีพี่เอกนำหน้าอยู่ไม่ห่าง ความดีนี้ต้องยกให้พี่เอก เพราะการที่พี่เอกวิ่งออกหน้า
ไปโดยลืมสังขารความแก่เฒ่าของตัวเองเพื่อไปให้ถึงที่ขายตั๋วให้ได้ก่อนที่เรือจะออก แล้วแจ้งให้
พนักงานทราบว่ายังมีผู้โดยสารที่ต้องการไปอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง มันทำให้พวกเราไม่ตกเรือ

3 Kommentare:

bact' hat gesagt…

อาจารย์วารีคลอดลูกแล้วครับ

รูปลูกกะแม่

Anonym hat gesagt…

หนุกครับ หนุก

แวะมาทักทายครับ

ว่าแต่พี่บี้อยากถามน้องนีลจัง ว่าเวลาคุณพ่อเล่นมุข (เกือบ) ขำเนี่ย น้องนีลต้องเกาพุงก่อนยิ้มป่าวคับบบ

อิลบี้

Beamer User hat gesagt…

ขอบคุณว่ะ ไอ้แบค แต่พี่ไม่ได้รู้จัก อ. วารี เป็นการส่วนตัว
แค่เคยเจอกันตอนประชุมแค่นั้น